ร็อบ สไวร์ หัวหน้าทีมกายภาพบำบัดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจอำลาทีม หลังจากทำงานให้กับทีมปีศาจแดงมานาน 23 ปี โดยเขาให้คำนิยามถึงงานของเขาว่า “มหัศจรรย์” และ “เป็นงานกายภาพบำบัดที่ดีที่สุดในเกมลูกหนัง” โดยผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนเขาก็คือผู้ช่วยที่ร่วมงานกับเขามานาน 15 ปีอย่าง นีล ฮัฟ
เขามักจะเป็นคนแรกวิ่งลงไปในสนามเมื่อนักเตะได้รับบาดเจ็บ สไวร์กลายมาเป็นคนที่เราได้เห็นกันบ่อยๆ ในสนามตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมกายภาพบำบัดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1999 นับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เขาก็ได้ร่วมงานกับนักเตะชื่อดังมากมายทั้ง เดวิด เบ็คแฮม, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เวย์น รูนี่ย์ ทำให้ทีมกวาดแชมป์ได้ทั้งพรีเมียร์ ลีก, ยูโรเปี้ยน คัพ และอื่นๆ อีกมากมาย หากตัดสินใจอำลาทีมไปแบบนี้มันอาจดูยากไปสักหน่อย แต่ร็อบก็รู้สึกว่ามันได้เวลาอันสมควรแล้วที่จะก้าวลงมา
“มันไม่ง่ายหรอก มันเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่” เขายอมรับ “ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว และมันก็ถึงแก่เวลาอันควรสักที”
“ผมทำงานให้กับที่นี่มาเป็นเวลายาวนาน และนั่นหมายความว่าคุณทำงานตลอดเวลาจริงๆ ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ และในช่วงเย็น ต้องเดินทางไปกับทีมตลอด และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อคุณมีครอบครัวอยู่ที่บ้าน”
“มันเป็นงานที่น่ามหัศจรรย์ เป็นงานที่ยอดเยี่ยม ผมคงไม่ต้องการอะไรที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว แต่หลังจากผ่านมา 23 ปีที่ต้องทำงานอย่างหนักตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ ผมก็คิดว่าผมคงไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ไปได้ตลอด ผมต้องตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ว่าเวลาใดก็เวลาหนึ่ง และมาคราวนี้มันก็ได้เวลาอันควรแล้ว”
การรับใช้สโมสรอันยาวนานของสไวร์เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1991 เมื่อเขาสมัครงานจากใบประกาศ สุดท้ายก็มาได้งานเป็นผู้ช่วยนักกายภาพบำบัดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทำงานเป็นลูกมือให้กับ จิม แม็คเกรเกอร์ เขาเริ่มต้นคิดเกี่ยวกับการทำงานในสายอาชีพนี้มาตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อเขาได้รับการปฐมพยาบาลหลังจากได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า และเขาคิดว่าเขาเองก็ทำได้ เขาเริ่มทำงานในวงการฟุตบอลให้กับฮาลิแฟ็กซ์ ทาวน์ ซึ่งตอนนั้นคุมทีมโดยอดีตนักเตะปีศาจแดงอย่าง จิม แม็คคัลเลียก และ 18 เดือนต่อมาเขาก็มาทำงานที่แมนเชสเตอร์
“ในวันแรกที่ผมก้าวเข้ามายังสนามซ้อมเดอะ คลิฟฟ์ ทั้งทีมก็กำลังไปออกทัวร์กันอยู่” ร็อบย้อนความหลัง “คนเดียวที่อยู่ที่สโมสรตอนนั้นก็คือ ไบรอัน ร็อบสัน เขารอให้ผมไปบำบัดร่างกายให้กับเขาอยู่ ตอนนั้นมันไม่มีใครที่เข้ามาทำการแนะนำตัวระหว่างเราทั้งสองเลย แต่ไบรอันก็เป็นคนที่ดีมาก ผมได้ใช้เวลากับเขาหลายวันหลังจากนั้น และมันก็ผ่านไปด้วยดี”
สไวร์ทำงานกับแม็คเกรเกอร์อยู่ 3 ปี จากนั้นก็เป็น เดฟ เฟฟร์ อีก 5 ปี ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมาทำตำแหน่งใหญ่สุดในปี 1999 จนกระทั่งทุกวันนี้ก่อนก้าวลงจากตำแหน่ง
“ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนที่น่าร่วมงานด้วย พวกเขาสอนอะไรหลายๆ อย่างให้กับผม” ร็อบซึ่งเป็นนักกายภาพบำบัดที่ทำงานให้กับสโมสรยาวนานที่สุดในพรีเมียร์ ลีก กล่าว
“ผมคิดว่านี่เป็นงานกายภาพบำบัดที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล คุณอาจจะรวมไปถึงทีมชาติเลยด้วยก็ได้ แต่นั่นก็เป็นงานที่คุณไม่ต้องคลุกคลีด้วยตลอดเวลา ผมมองว่าในระดับสโมสรนั้นมันเข้มข้นมากกว่า เพราะว่าคุณต้องทำงานร่วมกับนักเตะกันแบบวันต่อวันเลยทีเดียว”
และการทำงานในแบบดังกล่าวก็ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืดอายุการใช้งาน ไรอัน กิ๊กส์ ไปได้ยาวนานเทียบเท่ากับการทำงานให้กับสโมสรของร็อบเอง มันเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1991 และมาจบลงเอาในปี 2014 แต่ร็อบเองก็ยังมองว่าสมควรให้เครดิตกับตัวนักเตะเองมากกว่า
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับไรอัน เขารักษาสภาพร่างกายของตัวเองได้เป็นอย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เองก็ดูแลเขาดี และจากนั้นรองลงมาก็เป็นหน้าที่ของผม รวมถึงทีมกายภาพบำบัดคนอื่นๆ ด้วย ส่วนปัจจัยอื่นๆ ก็มีโค้ช, สต๊าฟฟ์ด้านฟิตเนส, ครูโยคะ และนักโภชนาการ… ซึ่งไรอันก็ทำทุกอย่างได้ดี”
ตอนนี้ไรอันหันมาทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการทีมแบบเต็มตัว และเขาก็ได้ทำงานร่วมกับ นีล ฮัฟ หัวหน้าทีมกายภาพบำบัดคนใหม่แบบใกล้ชิด เขาเป็นคนที่ร็อบมองว่าสมบูรณ์แบบที่สุดที่จะมาสานต่องานจากเขา
“เขาเป็นคนที่น่าร่วมงานด้วยมาก เขาช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี คุณจำเป็นจะต้องมีผู้คนที่ดีอยู่รอบๆ ตัวคุณ และนีลเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
จากนี้เป็นต้นไป ร็อบจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ และจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หลังจากทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอย่างยาวนาน
“หลังจากทำงานแบบ 7 วันต่อสัปดาห์มาอย่างยาวนาน ผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าผ่านงานมาแล้ว 40 หรือ 45 ปี จากการทำงาน 25 ปีกับที่นี่ จากนี้ไปผมก็จะได้ดูแลครอบครัวผมอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมจะได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่ผมไม่สามารถทำได้ในช่วงที่ยังทำงานอยู่ ผมจะไปที่สวน หาจักรยานสักคันไปปั่น แล้วก็พักผ่อนจิตใจ”
ทุกๆ คนที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขอขอบคุณเขาด้วยความจริงใจ และขออวยพรให้ร็อบโชคดีหลังจากตัดสินใจรีไทร์จากอาชีพในครั้งนี้
SiR KeaNo